
กรณีที่ประกันรถยนต์จะรับเคลมประกันรถ หากน้ำท่วมรถ
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่า รถยนต์ที่เกิดความเสียหายจากน้ำท่วมรถมีหลายรูปแบบ ซึ่งประกันรถยนต์ก็จะให้ความคุ้มครองที่ต่างกันออกไป โดยแบ่งตามกรณีที่รถเกิดความเสียหายจากน้ำท่วมรถ ดังนี้
1. เกิดน้ำท่วมรถจากภัยพิบัติธรรมชาติ
ในกรณีนี้เกิดจากการจอดรถเอาไว้ แล้วเกิดน้ำหลากและเคลื่อนย้ายรถหนีไม่ทัน จนถูกน้ำท่วมรถได้รับความเสียหายบางส่วน กรณีนี้ประกันรถยนต์จะรับเคลมประกันรถให้ แต่ในกรณีที่เกิดน้ำท่วมรถจนเกิดความเสียหายโดยสิ้นเชิง และบริษัทประกันฯ ประเมินแล้วว่าไม่คุ้มที่จะซ่อม จะทำการจ่ายเป็นเงินชดเชย 70-80 % ของทุนประกันแทน
2. ขับรถลุยน้ำท่วม
กรณีขับรถลุยน้ำท่วมขังหรือขับรถไปในเส้นทางที่ภาครัฐมีการประกาศแจ้งเตือนแล้วว่า ถนนเส้นนั้นมีความเสี่ยงภัยน้ำท่วม แต่ยังขับเข้าไปจนเกิดความเสียหายกับตัวรถ ไม่ว่าจะเป็นห้องเครื่อง ระบบไฟเสียหายหรือเครื่องยนต์ดับ ในกรณีแบบนี้ทางบริษัทประกันฯ จะไม่รับพิจารณาเคลมประกันรถ
3. รถติดขณะฝนตกหนักและเกิดน้ำท่วม
หากขับรถออกไปข้างนอกแล้วรถติดในขณะที่มีฝนตกหนัก จนเกิดน้ำท่วมในระดับที่ส่งผลทำให้ตัวรถได้รับความเสียหาย ในกรณีนี้ประกันรถยนต์จะรับเคลมประกันรถให้
รถที่เสียหายจากน้ำท่วมรถ สามารถเคลมประกันรถแบบไหนได้บ้าง
การเคลมประกันรถในกรณีน้ำท่วมรถ ขึ้นอยู่กับความเสียหายที่เกิดขึ้นกับตัวรถ โดยทางบริษัทประกันฯ จะพิจารณาจากลักษณะของการถูกน้ำเข้า ซึ่งคุณสามารถตรวจสอบเองได้จากกรมธรรม์ที่คุณทำว่าได้รับความคุ้มครองแค่ไหน ในกรณีไหนบ้าง โดยประเภทประกันภัยที่จะให้ความคุ้มครองในกรณีน้ำท่วมรถ จะดังนี้
การเคลมประกันรถ กรณีน้ำท่วมรถต้องเตรียมตัวอย่างไร
หลังจากที่คุณตรวจสอบกรมธรรม์ที่คุณทำแล้วว่า สามารถเคลมประกันรถได้จากกรณีน้ำท่วมรถ คุณสามารถเตรียมตัวและเอกสารในการขอเคลมประกันรถได้ ดังนี้
หากไม่มีหลักฐาน ทำอย่างไร ?
ในกรณีที่คุณไม่มีหลักฐานเป็นภาพถ่าย ให้ใช้วิธีการจดบันทึกรายละเอียดของเหตุการณ์ให้ละเอียดที่สุด ทั้งความสูงของน้ำ ช่วงเวลาในการเกิดเหตุ หรือจะไปลงบันทึกประจำวันเอาไว้เพื่อบันทึกเป็นหลักฐานก็ได้เช่นกัน
ขั้นตอนการเคลมประกันรถ กรณีน้ำท่วมรถ
เมื่อเกิดเหตุน้ำท่วมรถจนได้รับความเสียหาย และตรวจสอบกรมธรรม์ประกันรถยนต์ที่ทำเอาไว้แล้วว่าอยู่ในความคุ้มครองจากบริษัทประกันฯ ก็สามารถทำเรื่องขอเคลมประกันรถกับบริษัทประกันฯ ได้เลย ดังนี้